วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประวัตินักฟุตบอล : Thierry Henry


ประวัตินักฟุตบอล : Thierry Henry
Thierry Daniel Henry เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1977 เป็นนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสเล่นในตำแหน่งกองหน้า ปัจจุบันค้าแข้งกับ New York Red Bulls ใน Major League Soccer ลีกฟุตบอลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา Henry เกิดที่ Les Ulis, Essonne ชานเมืองของParis ที่เขาเล่นในเยาวชนท้องถิ่น และแสดงความสามารถในการเป็นผู้ทำประตู Henry ได้ไปเล่นให้กับ AS Monaco ตั้งแต่ปี 1990 และได้รับโอกาสการลงสนามในระดับอาชีพครั้งแรกเมื่อปี 1994 และได้ถูกเรียกไปรับใช้ชาติในปี 1998 หลังจากนั้นในปีเดียวกันก็ได้ย้ายไปที่ Juventus แต่กลับให้ Henry เล่นปีก ซึ่งเขาทำได้ไม่ดีเลย ก่อนที่จะเป็น Arsenal คว้าเขาไปด้วยราคา 11 ล้านปอนด์ ในปี 1999
พอย้ายมาที่ Arsenal Thierry Henry ก็ได้ทำให้ชื่อของเขาถูกเรียกว่านักฟุตบอลระดับโลก โดยการพยายามใน Premier League เขาได้เป็นดาวซัลโวประจำสโมสร และเกือบทุกปีระหว่างที่เขาค้าแข้งที่ Arsenal  ภายใต้การใช้งานของกุนซือ Arsène Wenger เขาได้กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดของสโมสรที่ 228 ประตู ในทุกรายการ Henry ได้รับรางวัลเป็นแชมป์ลีคสองครั้ง และ FA Cup สามครั้ง ระหว่างที่เป็นนักเตะที่Arsenal เขาได้รับการเสนอชื่อของรายการ FIFA World Player of the Year สองครั้ง และได้รางวัล PFA Player’ Player of the Year สองครั้ง และ FWA Footballer of the Year สามครั้ง Henry ได้เป็นกัปตันทีมและพา Arsenal เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ในปี 2006
เดือนมิถุนายน ปี2007 หลังจากค้าแข้งในถิ่นผู้ดีอังกฤษถึงแปดปี Thierry Henry ก็ได้ย้ายออกมาจาก Arsenal ไปสู่ Barcelona ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร และได้แชมป์ La Liga, Copa del Rey และ UEFA Champions League รวมถึง Supercopa de España, UEFA Super Cup และ FIFA Club World Cup
หลังจากนั้นในปี 2010 Henry ก็ได้ย้ายไปที่ New York Red Bulls ใน Major League Soccer ได้รับถ้วย Eastern Conference ในปี 2010 Henry ได้กลับไปที่ Arsenal เป็นเวลาสองเดือนด้วยสัญญายืมตัวในปี 2012
Thierry Henry ยังประสบความสำเร็จในการเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยการชนะฟุตบอลโลกในปี 1998 UEFA Euro 2000, FIFA Confederations Cup 2003 และยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสด้วย 51 ประตู ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Michel Platini 31ประตู เขาเลิกเล่นให้กับทีมชาติเมื่อ จบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 Thierry Henry ยังทำหน้าที่เป็นโฆษกในการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติในเกมฟุตบอล โดยอาศัยประสบการของตนด้วย

เริ่มต้นชีวิตค้าแข้ง AS Monaco(1994-99) และ Juventus(1999)
ในปี 1990 แมวมองของ Monaco ชื่อ Arnold Catalano ได้มาจับตาดู Henry เมื่อตอนที่เขาอายุเพียง 13 ปี โดน Henry ทำประตูหกประตูในนัดที่ทีมของเขาเอาชนะด้วยผล 6-0 Catalano ถาม Henry ว่าจะมาที่ Monaco โดยที่ไม่ได้แม้กระทั่งสัญญาลองเล่นเลยไหม Catalano ได้จัดการจน Henry ได้เข้าศึกษาที่สถาบัน Clairefontaine ที่เป็นสถาบันฝึกนักเตะเยาวชน  แม้จะจบออกมาอย่างไม่เต็มใจของผู้อำนวยการสถาบันถึงการที่เขาทำผลงานในสถาบันได้ไม่ดี และได้เป็นนักเตะเยาวชนของMonaco โดยมีนายใหญ่ของทีมชุดใหญ่คือ Arsène Wenger โดยได้รับสัญญาในการเป็นนักตะอาชีพ และลงเล่นในเกมระดับอาชีพในวันที่ 31 สิงหาคม 1994 ที่พ่ายแพ้แก่ Nice ในตอนนั้น Arsène Wenger ได้บอกว่า Henry น่าจะพัฒนากลายเป็นกองหน้าที่เก่งกาจในอนาคต Arsène Wenger ได้วางตำแหน่งให้ Henry เป็นปีกซ้าย โดยเขาเชื่อว่า Henry จะสามารถใช้ทักษะ การควบคุมลูกบอล ในการกดดันฟูลแบ๊คและกองหลังตัวกลางได้ดี
หลังจากได้ลงเล่นให้แก่ Monaco Henry ก็ได้รับรางวัล ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฝรั่งเศสประจำปี1996  ในฤดูกาล 1996-1997 ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม เขาก็มีส่วนช่วยให้ Monaco คว้าแชมป์ลีคมาเป็นผลสำเร็จ ในฤดูกาลถัดมา เขาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ Monaco เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในรายการ UEFA Champions League โดย Henry ยิงประตูไป 7 ประตูในทัวนาเมนต์นั้น และเขาก็ได้รับการเรียกตัวไปติดทีมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก1998  ในห้าฤดูกาลที่ค้าแข้งในMonaco Thierry Henry ได้ทำประตูในลีค20ประตูจากการลงสนาม 105นัด
Henry ออกจาก Monaco ในเดือน มกราคม 1999 ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง David Trezeguet จะออกจากทีมไป Juventus Henry ได้ย้ายไปที่ Juventus โดยเล่นเป็นปีก แต่ก็ไม่ได้คุกคามแนวรับของฝั่งตรงข้ามเท่าไหร่เพราะว่า Serie A เป็นแหล่งรวมกองหลังชั้นยอด และไม่เหมาะกับรูปแบบของ Henry เขาทำได้เพียง 3 ประตู จากการลงสนาม 16 นัด

Arsenal(1999-2007)

หลังจากผิดพลาดที่อิตาลี Henry ก็ย้ายจาก Juventus มายัง Arsenal ในวันที่ 3 สิงหาคม 1999 ด้วยค่าตัวประเมินไว้ที่ 11 ล้านปอนด์ กลับมาพบกับเจ้านายเก่าอย่าง Arsène Wenger และเป็นเพราะArsenal ที่ทำให้ Henry ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นระดับโลก การย้ายตัวครั้งนี้มาจาก Wenger ต้องการผู้เล่นที่มาทดแทน Nicolas Anelka กองหน้าชาวฝรั่งเศสอีกคน Henry ได้กลายเป็นกองหน้าตัวทำประตูจากการสั่งสอนจาก Wenger แต่เขาก็ต้องพํฒนาปรับตัวกับเกมที่เร็วและแรงของอังกฤษ และทำประตูไม่ได้ในแปดเกมแรก หลังจากผ่านความยากลำบากในช่วงแรกแล้ว Henry ก็ต้อง “กลับเรียนรู้ใหม่ ว่าอะไรคือทุกอย่างของศิลปะของกองหน้า” ด้วยการทบทวนตัวเองครั้งนี้ ทำให้ Henry ได้ทำประตูให้ Arsenal ถึง 26 ประตูจากทุกรายการ Arsenal จบอันดับสองในลีค รองจาก Manchester United และ แพ้ในรอบชิงในถ้วย UEFA Cup(UEFA Europa League ในปัจจุบัน) โดยแพ้ให้แก่ Galatasaray
หลังจากกลับมาด้วยชัยชนะในทีมชาติ ในศึก UEFA Euro 2000 Henry ก็ได้สร้างผลกระทบในฤดูกาล2000-01 เนื่องจากการทำประตูและแอสซิสที่ลดลง ยังทำให้ Arsenal เป็นอันดับสองในลีครองจาก Manchester United อีกครั้ง แต่เขาก็ยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลนั้นของArsenal ที่ 22 ประตู ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ยอดเยี่ยมของลีค แต่ในความเป็นจริง เขายังไม่ได้ช่วยให้สโมสรได้รับรางวัลเลย
ความสำเร็จมาเยือนเมื่อฤดูกาล 2001-02 เมื่อ Arsenal จบลงที่อันดับหนึ่งในลีค โดยมีแต้มมากกว่า Liverpool ที่ได้อันดับสองอยู่เจ็ดแต้ม และยังเอาชนะ Chelsea ในนัดชิงชนะเลิศ FA Cup Thierry Henry ได้กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีค ที่24 ประตู โดยห่างจากอันดับสองที่มีสามคนเพียงประตูเดียว และทำประตูรวมให้ Arsenal 32ประตูในทุกรายการ ส่งผลให้ Arsenal ได้ดับเบิลแชมป์ และสำหรับ Henry นี่เป็นแชมป์สมัยแรกกับสโมสรนี้ และได้เข้าร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศสสู้ศึกการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2002 แต่ได้ทำให้ผู้คนตกใจด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่ม
ฤดูกาลถัดมา 2002-03 พิสูจน์ว่าคุณภาพของ Henry ว่าเป็นของจริง เขาทำประตูไป 32 ประตูในทุกรายการ และยังทำแอสซิสไปอีก 23 ครั้ง ในฤดูกาลนี้Henry นำArsenal ได้แชมป์ FA  Cup อีกครั้งรวมทั้งเป็น แมนออฟเดอะแมทช์ในนัดชิงด้วย แต่Arsenal ไม่ได้แชมป์ลีค ในฤดูกาลนั้นแชมป์ตกเป็นของManchester United โดยมี Ruud van Nistelrooy เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีคที่ 25ประตู และ Henry เป็นรองที่ 24 ประตู  Thierry Henry ได้รางวัล PFA Players’ Player of the Year และ FWA Footballer of the Year เขาเพิ่มสถานะตนเองจนกลายเป็น หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเขาได้เป็นที่สองในรางวัล FIFA World Player of the Year Award
เมื่อมาถึงฤดูกาล 2003-04 Arsenal ก็ตัดสินใจที่จะกลับมาเป็นแชมป์ลีคให้ได้อีกครั้ง Henry ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วย Arsenal ทำผลงานเพื่อประสบความสำเร็จ ร่วมกับผู้เล่นอย่าง Dennis Berkamp, Patrick Vieira และ Robert Pirès ในฤดูกาลนี้ Henry ก็ช่วยให้ Arsenal ได้แชมป์ลีคเป็นผลสำเร็จ และยังเป็นทีมแรกที่ทำสถิติไม่แพ้ตลอดทั้งฤดูกาล โดยทำประตูในลีคไป 30 ประตู และยังได้รางวัล PFA Players’ Player of the Year และ FWA Footballer of the Year สองปีติดต่อกัน และยังเป็นที่สองในรางวัล FIFA World Player of the Year Award อีกครั้ง จากการทำไป 39 ประตูในทุกรายการกับ Arsenal  และได้รับรางวัลรองเท้าทองคำยุโรป(ทำประตูมากที่สุดในลีคของยุโรป โดยนำแต้มของระดับลีคมาคูณด้วยจำนวนประตู เช่น EPL มี2แต้ม ทำ30ประตูเท่ากับมี60แต้ม) แต่ทว่าเขากลับไม่สามารถช่วยให้ฝรั่งเศสรักษาแชมป์UEFA Euroได้โดยตกรอบก่อนรองชนะเลิศโดยพบ กรีซ ที่ได้แชมป์ในปีนั้น
ความสำเร็จที่ได้รับเริ่มต่ำลง เมื่อฤดูกาลถัดมาArsenal เสียแชมป์ให้กับ Chelsea ของ José Mourinho แต่ Arsenal ก็ได้แชมป์ FA Cup แต่ Henry ไม่ได้ลงเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังอยู่ในสถานะกองหน้าชั้นนำต่อไป โดยเขาได้รับรางวัลดาวซัลโวของลีคอีกครั้งที่25ประตู และทำประตูให้ Arsenal ไป31 ประตูในทุกรายการ Henry ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำยุโรปอีกครั้ง ร่วมกับ Diego Forlán และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันสองครั้งอย่างเป็นทางการ (Ally McCoist ได้รับรางวัลนี้ติดต่อกัน แต่เป็นแบบไม่เป็นทางการ) การจากไปของกัปตันทีม Patrick Vieira เมื่อจบฤดูกาล ทำให้Henry ได้รับปลอกแขนกัปตันทีม ซึ่งไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก เนื่องจากกัปตันทีมส่วนมากมักจะเป็นกองกลางและกองหลัง ที่สามารถอ่านเกมได้ ด้วยความที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญในการทำประตู Henry จึงต้องรับผิดชอบในการนำลูกทีมที่มีอายุน้อย
ในฤดูกาล 2005-06 วันที่น่าจดจำก็มาถึง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2005 Thierry Henry กลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดของสโมสร ด้วยการทำสองประตูใส่ Sparta Prague ทำลายสถิติของ Ian Wright ที่ทำไป 185 ประตู ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2006 เกมที่พบกับWest Ham United Thierry Henry ก็ได้ทำลายสถิติของ Cliff Bastin โดยHenryทำประตูในลีคไป151ประตู Henry ก็ยังทำประตูที่100 ในสนามHighbury  และด้วยผลงานในเวที Premier League เขาก็ได้เป็นดาวซัลโวอีกครั้ง และยังได้ FWA Footballer of the Year เป็นครั้งที่สาม แต่ว่าArsenal ก็พลาดแชมป์อีกครั้ง แต่ว่ากลับได้เข้าชิง UEFA Champions League พบกับ Barcelona แต่ว่าก็ต้องสูญเสียผู้เล่นไปคนหนึ่ง แถมยังเป็นผู้เล่นสำคัญอย่างผู้รักษาประตู Jens Lehmann แม้ว่าจะสามารถทำประตูขึ้นนำได้ แต่หลังจากโดนBarcelona ทำสองประตูรวดแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้แชมป์ มีการคาดเดาว่าHenry ย้ายทีม เนื่องจากเขาได้ปฏิเสธการต่อสัญญาจำนวนสี่ปี โดยรองประธานของสโมสร David Dein ได้บอกปัดข้อเสนอซื้อHenryของสโมสรจากสเปนสองทีม ที่ราคา50 ล้านปอนด์ ก่อนที่Henry จะต่อสัญญาต่อไป ด้วยการยื่นราคามา หากตอบตกลงจะทำลายสถิติของ Zinédine Zidane ที่ 47ล้านปอนด์
Henry ในฤดูกาล 2006-07 ไม่ได้ลงเล่นมากนักเนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ แต่ก็ทำประตูไป10 ประตูจากการลงสนาม 17 นัด ในประเทศ โดยคาดหมายว่าจะกลับมาทันในเกมที่พบกับ PSV ในเกม Champions League และเขาก็ลงเล่นในช่วงท้ายเกม แต่ทว่ากลับได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง แล้วต้องพักยาว ถึงสิ้นฤดูกาล

Barcelona(2007-2010)
ในวันที่ 25 มิถุนายน 2007 มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อ Thierry Henry ย้ายไปที่ Barcelona ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร เขาเซ็นสัญญาด้วยสัญญาสี่ปี ได้รับเงินฤดูกาลละ 6.8 ล้านยูโร แต่ก็มีราคาฉีกสัญญาที่ 125 ล้านยูโร Henry กล่าวถึงการจากไปของ Dein และความไม่แน่นอนของอนาคตของ Wenger ทำให้เขาตัดสินใจย้ายออกมา และยังบอกว่า”ผมบอกอยู่ตลอดว่าหากผมออกจากArsenal ผมจะเล่นให้กับ Barcelona” หลังจากกัปตันของArsenal ย้ายออกมา Arsenal ก็เริ่มฤดูกาลได้น่าประทับใจ หลังจากไม่ชนะในสามนัดแรกแล้ว ก็ชนะรวดถึงห้านัด Henry ยอมรับว่าทีมเก่าของเขาต้องการเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากกว่าที่จะต้องการความช่วยเหลือ "เพราะว่าความเป็นนักเตะรุ่นใหญ่ของผม ความจริงที่ว่าผมเป็นกัปตัน และงานของผมคือการร้องขอบอล พวกเขาบางทีก็ส่งมาให้ผมในตอนที่ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดี เพราะฉะนั้นคงจะดีสำหรับทีมมากกว่าที่ผมจะออกมา" HenryออกจากสโมสรArsenal ด้วยการเป็นผู้เล่นที่ทำประตูมากที่สุดในลีคให้Arsenalที่174ประตู และทำประตูสูงสุดในถ้วยยุโรปให้Arsenal ในเดือนกรกฎาคม 2008 แฟนบอลของ Aresenal ได้โหวตว่า Henry เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของสโมสรจากการเลือกนักเตะชั้นยอด 50 คน
เมื่ออยู่ที่ Barcelona Thierry Henry ได้รับหมายเลขเสื้อเป็นเบอร์14 หมายเลขเดียวกับที่เขาเคยใส่เมื่อตอนอยู่ที่ Arsenal ประตูแรกให้กับสโมสรใหม่ของเขาเกิดขึ้นเมื่อ 19 กันยายน 2007 ในเกม UEFA Champions League การทำแฮตทริคแรกของเขากับBarcelona เกิดขึ้นเมื่อ เกมในลีคกับ Levante ในอีกสิบวันถัดมา ตลอดฤดูกาลนั้น Henry ได้พัฒนาการเล่นในตำแหน่งปีกมากขึ้น แต่ไม่สามารถที่จะทำประตูได้มากมายเหมือนตอนที่เขาอยู่ที่Arsenal เขาเริ่มถูกไม่พอใจที่ย้ายมาที่Barcelonaตั้งแต่ปีแรก ท่ามกลางข่าวลือมากมายที่บอกว่าHenry จะกลับ Premier League แต่ในการสัมภาษณ์กับ Garth Crooks ในรายการ BBC Football Focus Thierry Henry ได้บอกว่าคิดถึงชีวิตที่”กลับบ้าน”รวมถึง”การสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ” แต่ในฤดูกาลนั้นเขายังเป็นดาวซัลโวให้กับBarcelonaในทุกรายการที่ 19 ประตู
Henry เพิ่มความสำเร็จของตนในอีกฤดูกาลถัดมา ด้วยการได้แชมป์ Copa del Rey โดยเอาชนะ Athletic Bilbao ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2009 และได้แชมป์ UEFA Champions League หลังจากนั้น ด้วยการทำผลงานระหว่างสามประสานแดนหน้า Thierry Henry, Lionel Messi และ Samuel Eto'o ทั้งหมดมประตูรวมกันถึง100ประตู เป็นการทำในลีค 72ประตู ทำลายสถิติของ Ferenc Puskás, Alfredo Di Stéfano และ Luis del Sol สามประสานของ Real Madrid ในฤดูกาล 1960-61 ที่ทำไป 66 ประตู (แต่ทว่าสถิตินี้ก็ถูกทำลายลงด้วย Cristiano Ronaldo, Karim Benzema และ Gonzalo Higuain ที่ 89ประตู ในฤดูกาล 2011-12) Henry ได้มีส่วนช่วยให้Barcelona ได้แชมป์ the Supercopa de España, UEFA Super Cup และ FIFA Club World Cup
ในฤดูกาลถัดมาได้มีสัญญาณเตือนมาจาก Pedro Rodríguez ทำให้ Henry ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในลีคเพียง 15นัด ก่อนที่ฤดูกาลนั้นจะจบลง ขณะที่ เขายังมีสัญญาเหลืออีกหนึ่งปี ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2010 ประธานสโมสร Joan Laporta ได้บอกว่า “เขาสามารถออกไปในช่วงตลาดนักเตะฤดูร้อนได้ ถ้าเขาอยากไป”หลังจากกลับมาจากฟุตบอลโลกปี 2010 Barcelona ได้ยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงกับสโมสรที่ไม่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเรื่องการย้ายตัวของHenry หากนักเตะตกลงเรื่องสัญญาก็สามารถย้ายไปได้เลย

New York Red Bulls(2010-ปัจจุบัน)

ในเดือนกรกฎา 2010 Henryได้ย้ายไปร่วมทีมในลีค Major League Soccer ลีคของประเทศสหรัฐอเมริกาคือทีม New York Red Bulls ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ทีมต้องการคนที่สองในฤดูกาลนี้ เขาได้ลงเล่นในลีคครั้งแรกในวันที่ 31 กรกฎาคม ในเกมที่เสมอ 2-2 กับ Houston Dynamo โดยHenryเป็นผู้แอสซิสทั้งสองประตูที่ทำได้ ประตูแรกที่เขาทำได้ให้กับ New York Red Bulls คือเกมที่พบกับ San Jose Earthquakes และในฤดูกาลนั้น New York Red Bulls เป็นทีมนำในกลุ่ม ฝั่งตะวันออก โดยนำทีมรองอย่าง Columbus Crew อยู่แต้มเดียว หลังจากแพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศใน MLS Cup Playoffs
ในฤดูกาลถัดมา สโมสรจบอันดับ10 ในฤดูกาลปกติ และตกรอบรองชนะเลิศ ใน MLS Cup Playoffs
หลังจากนั้น Arsenal ได้เซ็นสัญญายืมตัว Henry ในระหว่างที่Major League Soccer ปิดฤดูกาล ในวันที่ 6 มกราคม 2012 พร้อมๆกับการชดเชยการขาดหายไปของ Gervinho และMarouane Chamakh ที่ต้องไปแข่งให้ทีมชาติในฟุตบอลประจำชาติแอฟริกา และสามารถทำประตูได้ในเกมที่พบกับ Sunderland ทำประตูในช่วงทดเวลาให้ Arsenal ชนะไปด้วยประตู 2-1 ในการมารอบที่สอง Henry ทำไปสองประตูจากการลงสนามเจ็ดนัด เป็นการทำประตูในลีคหนึ่งประตู จึงทำให้Henry เป็นผู้ทำประตูในลีคPremier League ไป175ประตู เป็นรอง Alan Shearer และ Andrew Cole ที่ 260ประตูและ 188ประตูตามลำดับ
ในวันที่ 31 มีนาคม 2012 เขาทำแฮตทริกครั้งแรกได้ในMLS ในเกมที่ Red Bulls เอาชนะ Montreal Impact 5-2 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนในเดือนนั้น
ปัจจุบันThierry Henryยังคงเล่นอยู่ที่ New York Red Bulls

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Free Backlinks makethaifood99 Backlinks thailand-poker Backlinks