ประวัตินักเตะ : Paolo Maldini
Paolo Cesare Maldini หรือ Paolo
Maldini เกิดเมื่อ 26 มิถุนายน 1968 เป็นนักฟุตบอลชาวอิตาลี
เล่นในตำแหน่ง แบ็คซ้ายและปราการหลัง สามารถเล่นได้ทั้งสองเท้าโดยการฝึกจากเท้าขวาธรรมชาติ
ก่อนจะเลิกเล่นในวัย 41 เมื่อปี 2009 เขาเป็นสัญลักษณ์และตำนานของมิลาน
ลงเล่นให้มิลานไปทั้งสิ้น 25 ฤดูกาล โดยได้แชมป์ UEFA Champions
League 5 สมัย Serie A 7 สมัย Coppa Italia 1 สมัย
Supercoppa Italiana 5 สมัย European Super Cups 5 สมัย Intercontinental Cup 2 สมัย Maldiniลงเล่นให้ทีมชาติครั้งแรกในปี
1988 และ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี 2002 มีสถิติลงเล่นให้ทีมชาติอิตาลี
126 นัด เล่นฟุตบอลโลก 4 ครั้ง
Maldiniเป็นกองหลังที่เล่นในรูปแบบรักษาตำแหน่ง
มากกว่าที่จะเขาสกัด เขาเข้าสกัดเฉลี่ยหนึ่งครั้งทุกๆสองเกม
เนื่องจากการเล่นของเขาไม่จำเป็นต้องเข้าสกัดบ่อยๆ
Maldiniเป็นผู้เล่นกองหลังระดับโลก
โดยเล่นในการแข่งขันระดับสูงมากถึงสองทศวรรษครึ่ง ได้รับรางวัลกองหลังยอดเยี่ยมของ UEFA Club Football Awards เมื่อตอนอายุ 39 รวมถึงเป็นที่สองของ
FIFA World Player of the Year Award ในปี 1995 เป็นรอง George
Weah
เป็นกองหลังที่มีโอกาสเข้าใกล้รางวัลนี้มากที่สุด จนกระทั่ง Fabio
Cannavaro กองหลังอิตาลีรุ่นน้อง ได้รับรางวัลนี้ในปี 2006 Maldini เป็นทั้งกัปตันทีมของ
Milan และทีมชาตอิตาลี จนได้รับฉายาว่า “Il Capitano” พ่อของ Paolo
Maldini คือ Cesare Maldini เป็นผู้เล่นและกัปตันของ Milan เช่นกันและยังเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จใน
ทีมชาติรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี
Maldini เริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการนัดแรกเมื่อฤดูกาล
1984-85 ในวันที่ 20 มกราคม 1985 โดยลงเป็นตัวสำรองของ
Sergio Battistini ที่บาดเจ็บ ในเกมกับ Udinese เมื่ออายุเพียง 16 ปี
แม้ว่านั่นจะเป็นเพีนงการได้ลงสนามครั้งเดียวในลีคฤดูกาลนั้นก็ตาม แต่ Maldini
ก็ได้รับโอกาสได้เป็นสิบเอ็ดผู้เล่นตัวจริงในฤดูกาลถัดมา
ในฤดูกาล 1987-88 Maldini ก็ได้รับถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรก โดยได้รับScudetto
(ถ้วยรางวัลของ
Serie A) รวมได้แชมป์ลีคทั้งสิ้นเจ็ดครั้ง
รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในสถิติไร้พ่ายในฤดูกาล 1991-92 ซึ่งกองหลังทั้งสี่นอกจากMaldiniแล้วยังมี Franco
Baresi, Alessandro Costacurta และ Mauro Tassotti ทั้งหมดได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ว่าเป็นกองหลังชุดที่น่าเกรงขามที่สุดในช่วงทศวรรษที่ 1990s หลังจากที่ Baresi
เลิกเล่น
Maldini ได้มีคู่หูที่ยังคงทำให้ชุดกองหลังนี้น่าเกรงขามต่อไปคือ Alessandro
Nesta
เมื่อMaldini ได้รับUEFA
Champions League เป็นหนที่สามสำหรับตัวเขา และใกล้เคียงกับการได้แชมป์ฟุตบอลโลก ในปี 1994
Maldini ได้กลายเป็นกองหลังคนแรกที่ได้รับรางวัลจาก World Soccer
magazine ในรางวัล World Player of the Year Award และ Maldini
เรียกว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญของเขา
“นี่เป็นมากกว่าเกรียติยศ
เพราะกองหลังอย่างเราได้รับความสนใจจากแฟนบอลและสื่อน้อยกว่าผู้ที่ทำประตู
พวกเราเป็นห้องเครื่องมากกว่าที่จะพูดเรื่องความรุ่งโรจน์” เขายังพูดถึงกัปตันทีมในตอนนั้นอย่าง
Franco Baresi ว่า “สมควรได้รับรางวัลนี้มากกว่าที่ผมควรได้รับ”
Maldini ทำลายสถิติการลงเล่นมากที่สุดในลีคสูงสุดของอิตาลีที่
571 นัดวันที่ 25 กันยายน 2005
ระหว่างเกมที่พบกับ Treviso โดยเป็นการทำลายสถิติของผู้รักษาประตูระดับตำนานอย่าง
Dino Zoff เจ็ดวันต่อมา เขาได้ลงเล่นนัดที่800 ให้กับ Milan
ในทุกรายการ
และทำสถิติเล่นในSeirie A นัดที่600ในวันที่ 13 พฤษภาคม
2007 และลงเล่นเกมระดับอาชีพรวมกันระหว่าง Milan และอิตาลี
นัดที่1000 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2008 ในนัดที่เป็นตัวสำรองพบกับ
Parma และ Maldini เป็นเจ้าของสถิติลงเล่นมากที่สุดในลีคสูงสุดที่ 647
นัด
โดยมี Zavier Zanetti ตามมาเป็นที่สอง(ยังคงเล่นอยู่)
Maldini ได้ไปถึงรอบสุดท้ายของรายการ
UEFA Champions League ถึงแปดครั้งโดยเป็นรองเพียง Francisco Gento ที่9ครั้ง Maldini
ได้แชมป์รายการนี้ทั้งสิ้น
5 ครั้ง ครั้งล่าสุดที่เอาชนะLiverpool 2-1 ที่ Athens
ในวันที่
23 พฤษภาคม 2007 ในการสัมภาษณ์ในเวลาออกอากาศกับ ESPN เขาให้สัมภาษณ์ว่า
ในปี2005 ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศกับLiverpool เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในการค้าแข้ง
เขาได้ทำประตูที่เร็วที่สุดในชีวิต(วินาทีที่51)กลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดที่ทำประตูในรอบชิง
และจบครึ่งแรกที่ผลประตู 3-0แต่กลับถูกตีเสมอและแพ้การดวลจุดโทษ
Maldini ประกาศแผนการเลิกเล่นฟุตบอลว่าจะเลิกเล่นในปี
2007-08 และบอกว่าจะไม่เสียใจที่เลิกเล่น แต่ทว่าหลังจากที่Milanตกรอบ
UEFA Champions League ด้วย Arsenal Maldini เริ่มบอกว่าเขาอาจจะเลื่อนการเลิกเล่นออกไปอีกปี และในวันที่ 18 เมษายน 2009
เขาได้บอกว่าจะเลิกเล่นในฤดูกาล
2008-09 เป็นที่แน่นอน
ในวันที่ 17 พฤษภาคม
เขาได้ลงเล่นนัดที่ 900 ให้กับ Milan เกมสุดท้ายในSan Siro เป็นการแพ้ให้กับ
Roma 2-3 ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2009 จากนั้นมีการประท้วงเล็กน้อยจากแฟนบอลMilan
ที่รู้จักในชื่อ"Brigate
Rossonere" เรื่องที่เขาจะเลิกเล่นฟุตบอล
นัดสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งของเขาเกิดเมื่อวันที่ 31พฤษภาคม
2009 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาลพบกับ Fiorentina โดย Milan
เอาชนะไปด้วยผล 2-0 และหลังจากนั้น Milan ได้ประกาศยกเลิกเบอร์ 3 ที่Maldini
สวมใส่
แต่ว่ามีพินัยกรรมว่าหากมีลูกชายของPaolo Maldini ขึ้นมาเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ใน
Milan จะยกเบอร์ 3 ให้
Paolo Maldini ลงเล่นให้กับ Milan
ไปทั้งสิ้น
902 นัด ทำประตูไป 33 ประตู โดยได้รับรางวัลดังนี้
Serie A (7): 1987–88,
1991–92, 1992–93,
1993–94, 1995–96,
1998–99, 2003–04
Coppa Italia (1): 2002–03
Supercoppa Italiana (5): 1988, 1992,
1993, 1994, 2004
European Cup/Champions League (5):
1988–89, 1989–90,
1993–94, 2002–03,
2006–07
UEFA Super Cup (5): 1989, 1990,
1994, 2003, 2007
Intercontinental Cup (2): 1989, 1990
FIFA Club World Cup (1): 2007
ในปี 1986 Paolo Maldini ได้ถูกCesare
Maldiniพ่อของเขาเรียกตัวไปยังทีมชาติอิตาลีรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี
โดยลงเล่นไป12นัดทำไป5ประตูในสองปี จากนั้นเขาเริ่มนัดแรกกับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ 13 มีนาคม
1988 เมื่ออายุเพียง 19ปี ในเกมที่พบกับ Yugoslavia ซึ่งเป็นเกมกระชับมิตร
เขาลงเล่นหนึ่งนัดในโอลิมปิก 1988 ลงเล่นทั้งสี่นัดใน EURO 1988 และลงเล่นฟุตบอลโลก
1990 ที่แพ้ต่ออาร์เจนตินาในการดวลจุดโทษรอบรองชนะเลิศ
Maldini ทำประตูแรกในเกมทีมชาติในการเล่นทีมชาตินัดที่
44 โดยพบกับเม็กซิโก ในวันที่ 20 มกราคม 1993 เขาได้รับรางวัล
Team of the Tournament ในฟุตบอลโลก 1994 ที่แพ้ต่อบราซิลในรอบชิงชนะเลิศ 32 ปีหลังจากพ่อของเขาได้รับเกรียติยศเดียวกันในปี
1962 Maldini ยังเล่นใน Euro 1996 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม รอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998
รอบชิงEuro
2000 ที่แพ้ฝรั่งเศสในรอบต่อเวลาพิเศษ
โดยเสียประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาและอีกประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ
หลังจากตกรอบสิบหกทีมสุดท้าย Maldini ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลให้ทีมชาติ
โดยไม่ได้รับแชมป์จากทีมชาติสักครั้ง หลังจากรับใช้ชาติมามากกว่า16ปี Maldini
ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเป็นกัปตันทีม
โดยเป็นกัปตันมามากกว่าครึ่งของเวลาที่รับใช้ชาติ ทำสถิติได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม 74
ครั้ง
กุมภาพันธ์ 2009 นายใหญ่ทีมชาติอิตาลี
Marcello Lippi ได้เสนอให้จัดการแข่ง testimonial match สำหรับ Maldini
โดยบอกว่าเป็นโอกาสที่จะรับใช้ชาติเป็นครั้งสุดท้าย
ในเกมที่พบกับไอร์แลนด์เหนือ แต่ว่า Maldini ได้ตอบปฏิเสธ
เพราะว่าเขาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่แข่งเกมอย่างเป็นทางการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น