ประวัตินักฟุตบอล : Peter Schmeichel
Peter Schmeichel มีชื่อเต็มว่า
Peter Bolesław Schmeichel เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1963
เป็นนักเตะที่เลิกเล่นแล้วชาวเดนมาร์ค
เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู มีฉายาว่า “ยักษ์เดน”
ได้รับการโหวตว่าเป็น”ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก”ในปี 1992 และ 1993
เขาเป็นผู้เล่นที่ได้รับการจดจำมากที่สุดคนหนึ่งในฐานะนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งกับ
Manchester United เขาได้เป็นกัปตันของทีมในปี 1999 และประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ได้ถึงสามแชมป์ในฤดูกาลเดียว
และยังคว้าแชมป์ Euro 1992 กับ Denmark
Schmeichel เกิดที่ GladsaxeในCopenhagen
เขาเป็นที่รู้จักเพราะรูปร่างที่น่ากลัว
ด้วยความสูง 191cm และ น้ำหนัก 105kg ระหว่างในช่วงที่กำลังเล่น
และสวมใส่เสื้อที่ทำเป็นพิเศษที่ขนาด XXXL แม้จะเป็นผู้รักษาประตูแต่เขาก็ทำประตูไป11ประตู Peter
Schmeichel เป็นนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชาติเดนมาร์กมากที่สุดด้วย 129 เกม ระหว่าง 1987
ถึง
2001 เป็นกัปตันทีม30ครั้ง
IFFHS ได้จัดอันดับให้
Schmeichel เป็นหนึ่งในสิบผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของศตวรรษที่20 และได้รับการโหวตจากคน
200,000คนจากการจัดโดย Reuters นำ Lev Yashin และ Gordon
Banks ต่อมาในปี 2004 Peter Schmeichel ได้รับการเสนอชื่อเข้าหอเกรียติยศของลีคฟุตบอลในอังกฤษ
รวมถึงเป็น “สุดยอดผู้เล่น 125 คนที่ยังมีชีวิต” ในการฉลอง FIFA 100 ปี
เขายังเป็นผู้รักษาประตูที่เก็บสถิติจำนวนนัดที่ไม่เสียประตูเทียบกับเกมทั้งหมดมากที่สุดที่
42% ใน Premier League
นอกจากManchester United แล้ว
Peter Schmeichel เล่นให้กับ Gladsaxe Hero, Hvidovre, Brøndby, Sporting CP,
Aston Villa และ Manchester City ด้วย ลูกชายของเขา Kasper Schmeichel เป็นนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งผู้รักษาประตู
ช่วงต้นของชีวิต
Peter Schmeichel เกิดที่ Søborggård
parish, Gladsaxe, Denmark จากบิดาเชื้อสายโปแลนด์และมารดาเชื้อสายเดนมาร์ก Peter
Schmeichel ถือสัญชาติ โปแลนด์จนกระทั่งปี 1970 เมื่อบิดาและญาติๆ
กลายเป็นผู้ถือสัญชาติเดนมาร์ก และได้รับชื่อที่สองว่า Bolesław
จากปู่ทวดของเขา Schmeichel เติบโตใน Buddinge, Copenhagen
และเริ่มเล่นฟุตบอลในชานเมืองของ Høje-Gladsaxe
เขาเป็นแฟนบอลของ Manchester United จากการเล่นของ Gary
Bailey ที่เป็นผู้รักษาประตูให้กับ Manchester United รวมถึงชื่นชอบ
as Sepp Maier, Tony Schumacher และ Peter Shilton ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูเช่นกัน
เขาเริ่มเล่นนัดแรกในวันที่ 7 สิงหาคม 1972 เมื่อมีอายุ 8ปี
และทำสถิติไม่แพ้เป็นเวลา สองปีครึ่ง Schmeichel ถูกจับตามองโดยทีม
Hero ทีมที่มีระดับชั้นสูงกว่า Høje-Gladsaxe
และเป็นทีมที่มีศูนย์ฝึกเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในเดนมาร์ก และก็ได้ย้ายไปที่ Gladsaxe-Hero BK และได้รับโอกาสให้เล่น Zealand
FA's junior
หลังจากเข้ามาที่ทีมชุดใหญ่ของ Gladsaxe-Hero
Schmeichel ได้พบกับผู้ให้คำแนะนำกับเขา และเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ชื่อว่า Svend Aage Hansen ซึ่งในภายหลังจะเป็นพ่อตาของเขา ด้วย Gladsaxe-Hero พึ่งตกชั้นจาก ดิวิชั่นสามและยังเหลือเกมการแข่งอีกสามเกม Hansen
ได้เลื่อน
Schmeichel และผู้เล่นอีกหกคนซึ่งเป็นผู้เล่นเยาวชนขึ้นมาเล่น ในเกมที่พบกับ Birkerød
พวกเขาแพ้ไปด้วยผล 1-0 แต่Schmeichel ก็ได้รับความสนใจจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่าสามารถทำผลงานได้ดี
เมื่อจบฤดูกาล Hansen ได้อธิบายถึงอนาคตของSchmeichel และใช้เวลาอีกสองฤดูกาล
กับ Gladsaxe-Hero ก่อนที่จะย้ายไปที่ Hvidovre และเล่นให้ทีมชาติ เขาได้รับข้อเสนอให้เล่นกับ Boldklubben
1903 แต่ปฏิเสธด้วยเหตุผล “ท่าทางน่าเบื่อ”
ในฤดูกาลถัดมา Gladsaxe-Hero จะต้องเอาชนะ Stubbekøbing
เพื่อป้องกันการตกชั้น Schmeichel เล่นในเกมนี้ แล้วเมื่อจบเกม Gladsaxe-Hero
ชนะ
ลูกสาวของ Svend Aage Hansen ชื่อว่า Bente
วิ่งออกมาจากข้างสนามเข้ามากอด
Schmeichel ทั้งสองคนตัดสินใจที่จะคบกัน และต่อมาทั้งคู่ก็แต่งงาน
ก่อนที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ Schmeichel ต้องทำงานหลายอย่าง
งานแรกของเขาคือการย้อมสีผ้าในโรงงานสิ่งทอ
แต่ก็ต้องเลิกเนื่องจากนโยบายด้านความปลอดภัยอาจทำให้มือของเขามีอันตราย
หลังจากนั้นเขาใช้เวลาหนึ่งปีในการทำความสะอาดบ้านของผู้สูงอายุ
ก่อนที่จะทำงานออฟฟิซกับ กองทุนสัตว์ป่าโลก เขาทำในร้านค้าขององกรณ์
แต่ในสามสัปดาห์ต่อมา ผู้จัดการของร้านค้าก็ออกจากงาน และSchmeichel ก็ได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย
หลังจากนั้น เขาได้รับการเรียกตัวให้ไปเกณฑ์ทหารภาคบังคับเป็นเวลาสี่สัปดาห์
เป็นเวลาเดียวกับค่ายฝึกฤดูร้อนของ Hvidovre ในโปรตุเกส
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เขาก็เกณฑ์ทหารเสร็จสิ้น แต่ว่า
มีสถานการ์ที่ละเอียดอ่อนภายในกองทุนสัตว์ป่าโลก กระทรวงกลาโหมและทีม Hvidovre แจ้งให้ Schmeichel เลิกงานในองกรณ์
งานกับพ่อตาของเขากลับมาอีกครั้งเมื่อหัวเข่าของเขาไม่สามารถที่จะรองรับน้ำหนัก95kgได้เต็มที่วในช่วงเวลาแปดชั่วโมงต่อวัน และได้รับคำแนะนำและข้อเสนอจากประธานของ Hvidovre Niels Erik Madsen ว่าจะไปเล่นให้ Brøndby
ในฤดูใบไม้ผลิ
การเล่นระดับอาชีพ
Brøndby(1987-1991)
ด้วยการเป็นทีมที่ทำผลงานในแผงรับเป็นอันดับห้าในลีค
โดยเสียประตูไป40ประตูจากการลงสนาม 30เกม Schmeichel และ Hvidovre
จบที่อันดับ
14 และต้องตกชั้น
แต่ใช้เวลาเพียงปีเดียวก็กลับมาเล่นในลีคสูงสุดอีกครั้ง Schmeichel ได้แชมป์เลยในปีแรกที่ย้ายมาเล่นที่
Brøndby และติดทีมชาติครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 1987 ภายใต้การนำของ
Sepp Piontek และได้ลงเล่นในEuro 1988 โดยเป็นผู้รักษาประตูตัวจริง
ในการเล่นกับ Brøndby Schmeichel
ได้แชมป์ลีคถึงสี่ครั้งในห้าฤดูกาล
จุดสูงสุดใน Brøndby เกิดเมื่อ European UEFA Cup ในปี 1991 โดยเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่แพ้ให้กับ AS
Roma จากการเสียประตูในนาทีสุดท้ายจาก Rudi
Völler หลังจากทัวร์นาเมนต์นั้น Schmeichel ได้รับการโหวตว่าเป็นผู้รักษาประตูอันดับสิบผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในปี1991ที่จัดอันดับโดย
IFFHS
Manchester United(1991-1999)
หลังจากการเล่นในทีมชาติ Manchester
United ได้ซื้อPeter Schmeichel มาในปี 1991 ด้วยราคา 505,000ปอนด์ ในปี2000
Sir Alex Ferguson ผู้จัดการทีมManchester United เรียกการซื้อตัวครั้งนี้ว่า
“การเจรจาแห่งศตวรรษ” เหตุผลหลักคือในตอนนั้น Peter Schmeichel ไม่เป็นที่รู้จักนอกเดนมาร์ก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นในทีมของ Manchester United Schmeichel ลงเล่นให้สโมสรนี้เป็นเวลาถึงแปดปี
ได้รับแชมป์ Premier League ห้าครั้ง FA Cup สามครั้ง League
Cup หนึ่งครั้ง
และ UEFA Champions League หนึ่งครั้ง
Manchester United ได้เป็นที่สองของลีค
ในฤดูกาลแรกของ Schmeichel แต่ว่าในทีมชาติ เขาได้ฉลองกับความสำเร็จ
ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่ Møller Nielsen เขาได้เป็นตัวจริงของทีมชาติในถ้วย
Euro 1992 Peter Schmeichel ได้เซฟลูกจุดโทษของ Marco van Basten และรับลูกบอลที่ถูกโยนมาด้วยลูกเดียว
ในรอบชิง และเซฟประตูสำคัญต่างๆในทัชวนาเมนต์
และได้เป็น”ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในปี 1992”
ฤดูกาล 1992-93 Schmeichel ได้ทำสถิติไม่เสียประตูในลีค
22 นัด ช่วยให้ Manchester United ได้แชมป์หลังจากไม่ได้แชมป์ในลีคสูงสุดมา
26 ปี และ Schmeichel ได้รับชื่อ “ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในปี 1993”
ในเดือนมกราคม 1994 Schmeichel หลุดจากผู้เล่นตัวจริงเนื่องจาก ในเกมกับ Liverpool
พวกเขานำอยู่
3-0 แต่ถูกตีเสมอ 3-3 Schmeichel บอกว่า“เป็นสิ่งที่แย่ที่สุด” และถูกลดการลงสนามลงโดยFerguson ไม่กี่วันหลังจากนั้น
Schmeichel ขอโทษผู้เล่นคนอื่นในทีม แต่ว่าFerguson แอบฟังโดยที่เขาไม่รู้
และ Ferguson ให้เขาอยู่ใน Manchester United ต่อไป
และได้รับแชมป์ลีคอีกครั้งในฤดูกาลนี้
ถึงจะเป็นผู้รักษาประตู แต่Schmeichel ไปอยู่ในพื้นที่ทำประตู
ถ้าได้เตะมุม ในตอนที่ทีมตามหลังอยู่ และทำให้กองหลังของฝั่งตรงข้ามวุ่นวาย
เนื่องจากรูปร่างที่สูงใหญ่ของเขา และเขาก็สามารถทำประตูได้ในลักษณะนี้ แต่ว่า ในUEFA
Cup Manchester United โดน Rotor Volgograd เขี่ยตกรอบ
จากการเสียประตูในช่วงท้ายเกมด้วยกฏการยิงประตูทีมเยือน
ในเดือนเมษายน ระหว่างเกมกับ Coventry
City กองหลังของ Coventry David Busst ถูกกองหลังของ
Manchester United Denis Irwin เข้าสกัดอย่างรุนแรง จนขาหัก
การบาดเจ็บนี้รุนแรงจนเห็นกระดูกโผล่ออกมาจากเนื้อ และถูกหามออกไป Schmeichel
เห็นการเข้าสัดนี้ต่อหน้าต่อตาและอาเจียนออกมา
จนต้องได้รับการปรึกษาหลังจากนั้น
Peter Schmeichel เล่นให้กับเดนมาร์ก
ในEuro 1996 ที่ประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพ แต่ตกรอบในรอบแบ่งกลุ่ม
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1997 ในเกมที่พบกับ
Arsenal Schmeichel ถูกกล่าวหาว่าเหยียดผิวกองหน้าของArsenal Ian Wright มีการถกเถียงของทั้งสองคนหลายครั้งตอนจบเกม
ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันตอนที่กลับไปยังข้างสนาม มีการสอบสวนเพิ่มเติมจากตำรวจถึงเกมของทั้งสองทีมก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน
ปีก่อนหน้า หลังจากนั้น FA และ PFA ซึ่งต้องการ “เปลี่ยน” โปสเตอร์ของ Schmeichel
ที่ว่า
“เตะการเหยียดผิวออกจากฟุตบอล” ไม่มีหลักฐานการเหยียดผิว และคดีก็ถูกทิ้ง
ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมชาติคนใหม่ Bo
Johansson แต่ Peter Schmeichel ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติในฟุตบอลโลก 1998
และเป็นหนึ่งในผู้นำของทีม
แต่ก็แพ้ให้กับบราซิลในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ผล 3-2
Peter Schmeichel จบชีวิตในถิ่น
Old Trafford ด้วยสถิติดีที่สุด ด้วยการคว้าสามแชมป์ คือ Premier League, FA
Cup และ
UEFA Champions League ในฤดูกาลนั้น เขาได้เซฟลูกจุดโทษของ Dennis Berkamp ในนาทีสุดท้ายของรอบรองชนะเลิศFA
Cup ทำให้ถึงรอบต่อเวลาพิเศษและชนะมาได้
รวมถึงเป็นกัปตันในเกมที่พบกับ Bayern Munich ทีมจากเยอรมันนี
ในรอบชิงชนะเลิศUEFA Champions League และถูกขึ้นนำ 1-0 แต่ได้ Teddy
Sheringham ทำประตูตีเสมอจากการวิ่งขึ้นไปดึงกองหลังของSchmeichel และได้ Ole
Gunnar Solskjær ทำประตูชัยในช่วงท้ายเกม
เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา Peter Schmeichel ตีลังกาหลังจากที่ Solskjær ทำประตูชัย
เมื่อออกจากManchester United ด้วยผลงานที่เยี่ยมยอด
ทำให้Manchester United ประสบปัญหาในการหาผู้เล่นมาแทนที่ Peter Schmeichel และเลือกผู้รักษาประตูที่มีสถิติดีหลายคนเช่น
Mark Bosnich, Massimo Taibi, Fabien Barthez, Tim Howard และ
Roy Carroll แต่ก็ไม่ลงตัว จนกระทั่ง Edwin van der Sar ที่ซื้อมาจาก Fulham
ผู้จัดการทีมSir
Alex Ferguson จึงบอกว่านี่เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ Schmeichel
ออกจากสโมสร
Sporting CP(1999-2001)
Peter Schmeichel ตัดสินใจที่จะออกจากฟุตบอลอังกฤษหลังจากฤดูกาล
1999 เนื่องจากเหนื่อยที่จะลงเล่น หกสิบเกมต่อฤดูกาล
จากสโมสรที่เขาประสบความสำเร็จที่สุด เขาถูกดูถูกว่าจะรักษาระดับในตอนอายุ 36
ได้ไหม
เขาเสาะหาลีคที่มีความเร็วบอลน้อยกว่า และย้ายไปที่Sporting CP ในโปรตุเกส และได้แชมป์ลีคในฤดูกาล
1999-2000 เพียงฤดูกาลแรกหลังจากย้ายมา ทำให้ทีมได้แชมป์หลังจากไม่ได้มากว่า 18
ปี
เขาทำประตูแรกและประตูเดียวให้กับทีมชาติเดนมาร์กด้วยลูกจุดโทษ ในเดือนมิถุนายน 2000
ในเกมอุ่นเครื่องสำหรับ
Euro 2000 กับเบลเยียม ทีมชาติเดนมาร์กถูกเขี่ยตกรอบในรอบแบ่งกลุ่ม Schmeichel
เลิกเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติในเดือนเมษายน
2001
ปีที่สองกับ Sporting CP เป็นปีที่น่าจดจำที่สุดเมื่อเขาพบกับ
Hvidovre ทีมเก่าของเขาหลังจากสิบสี่ปี และจบอันดับสองของลีค Schmeichel
แจ้งว่าเขาต้องการที่จะต่อสัญญา
ในเดือนมกราคม 2001 แต่ก็ถูกปล่อยให้หมดสัญญา และต้องออกจากสโมสรในเดือนมิถุนายน
ปีเดียวกัน และมีทางเลือกหลายทางสำหรับอนาคต Schmeichel ตัดสินใจที่จะเล่นต่อไป
Aston Villa(2001-02)
Peter Schmeichel กลับมาที่อังกฤษอีกครั้งในเดือน
กรกฎาคม 2001 โดยเล่นให้Aston Villa เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2001
เขาได้กลายเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ทำประตูได้ใน
Premier League ในเกมที่แพ้ให้กับ Everton 3-2 จากนั้นมี Brad
Friedel, Paul Robinson และ Tim Howard ที่เป็นผู้รักษาประตูแล้วทำประตูได้ Schmeichel
ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับ
Aston Villa และไม่สามารถลงเล่นได้ทุกเกมเนื่องจากสภาพร่างกาย Aston Villa และ Schmeichel
ตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญา
และ Schmeichel ต้องออกจากสโมสร
Manchester City(2002-03)
Schmeichel เล่นฟุตบอลฤดูกาลสุดท้ายกับ
Manchester City คู่ปรับของสโมสรเก่าของเขาManchester United และหยุดสถิติไม่แพ้ติดต่อกันในเกมManchester
Derby ของ Manchester United ลงด้วยการที่ Cityเอาชนะ United
ที่
Maine Road(ชื่อสนามเก่าของManchester City) และ เสมอกันที่ Old Trafford
แขวนถุงมือ
ในเดือนธันวาคม 1999 Schmeichel ได้กลายเป็นเจ้าของสโมสรเก่าของเขา
Hvidovre IF แต่ก็ออกจากสโมสรใน เดือนมิถุนายน 2002 เขาทำงานเป็นผู้ให้ความรู้ของBBC
หลังจากแขวนถุงมือ
และเป็นนักวิเคราะห์ ระหว่างเกมจนถึง 2005 หลังจากนั้นได้กลายเป็นผู้บรรยายในเกมถ่ายทอดสดUEFA
Champions League ของสถานีในเดนมาร์ก ร่วมกับ Preben Elkjær และ Brian
Laudrup แต่เขาก็ยังทำงานให้กับ BBC ต่อไป และในวันที่ 5 มกราคม 2008
เขาได้เป็นผู้บรรยายร่วมกับ Gary Lineker, Alan Hansen และ Alan Shearer ในเกมที่ Manchester
United พบกับ Aston Villa สองทีมเก่าของเขา
ลูกชายของ Peter Schmeichel ชื่อ Kasper
Schmiechel เล่นให้กับ Leicester City ถูกเรียกติดทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี
ในเดือนสิงหาคม 2003 และโอกาสได้ลงเล่นชุดใหญ่เมื่อ ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ Darlington
ในปี
2005
Peter Schmeichel เป็นที่นิยมมากในอังกฤษ
และชื่อของเขาได้ถูกนำไปตั้งชื่อสุนัขตัวเก่าของChesney Brown (ละคร)
ในถนนละครในเมือง Manchester
Schmeichel เป็นส่วนหนึ่งของ
Soccer Aid การแข่งขันฟุตบอลการกุศล ที่รวบรวมนักฟุตบอลที่เลิกเล่นแล้วและดารานักแสดง
รวมถึงนักกีฬาชนิดอื่นๆ โดยเป็นการแข่งระหว่างสองทีมคือ ทีม England และ Rest
of the World โดย Schmeichel เล่นให้ทีม Rest of the World และถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง
ในปี2006 Peter Schmeichel ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Strictly Come
Dancing ฤดูกาลที่สี่ แต่ถูกโหวตออกในวันเกิดอายุ 43 ปี โดยถูกโหวตออกในสัปดาห์ที่เจ็ด
Schmeichel ไม่ได้สร้างกิจการเกี่ยวกับเพลง
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นเจ้าของห้องบันทึกเสียงในโรงรถ
และปล่อยเพลงที่เขาร้องออกมาใน Euro 1996 เพื่อเดนมาร์ก
ในวันที่ 31 สิงหาคม
กลุ่มการลงทุนรวมถึง Schmeichel ได้ลงทุน 250ล้าน DKK(33.5ล้านดอลลาห์)
เพื่อลงทุนมนสโมสรฟุตบอล Brøndby IF และPeter
Schmeichel ได้เป็นผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสร แต่ว่าพวกเขาได้แถลงการณ์ว่าได้ล้มเหลวในขั้นตอนการเจรจาขั้นสุดท้าย
ในเดือน กุมภาพันธ์
เขาได้เป็นเจ้าของรายการตอบคำถาม ในช่องสามของเดนมาร์กชื่อ 1 vs 100 และเป็นเจ้าของรายการ
Dirty Jobs แบบยุโรปของช่อง Discovery
