วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทีมสโมสร : Real Madrid


ทีมสโมสร สโมสร Real Madrid
สโมสรรีลมาดริดมีชื่อเป็นภาษาสเปนว่า Real Madrid Club de Fútbol หมายถึงสโมสรฟุตบอล รีลมาดริด ตั้งอยู่ที่ Madrid ประเทศ สเปน ปัจจุบันเล่นในระดับLa Liga ซึ่งเป็นลีคสูงสุดของประเทศ
สโมสร รีลมาดริด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 1902 โดย Juan Padrós ซึ่งถือว่าเป็นประธานสโมสรคนแรกของ รีลมาดริด โดยแรกเริ่มตั้งชื่อว่า Madrid Football Club จากนั้นในปี 1920 ก็ได้รับพระราชทานคำว่า Real ซึ่งมีความหมายว่า Royal จาก King Alfonso XIII พร้อมกับสัญลักษณ์มงกุฏ
สนามแข่งของรีลมาดริด คือ Santiago Bernabéu ตั้งอยู่ที่ย่านใจกลางของกรุง Madrid โดยใช้งานมาตั้งแต่ปี 1947  
รีลมาดริดเป็นหนึ่งในสามสโมสรของสเปนที่ไม่เคยตกชั้นจากลีคสูงสุดร่วมกับ แอธเลติก บิลเบา และ บาร์เซโลนา โดยบาร์เซโลนาถือว่าเป็นคู่ปรับที่เผชิญหน้ากันมาโดยตลอด เรียกการเผชิญหน้าของรีลมาดริด และ บาร์เซโลนาว่า El Clásico
สโมสรรีลมาดริด ได้กลายเป็นทีมระดับชั้นนำในช่วงทศวรรษที่ 1950s ทั้งในประเทศและในยุโรป โดยมีรายการแชมป์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันดังนี้
La Liga 32 สมัย
Copas del Rey 18 สมัย
Supercopas de España 9 สมัย
Copa Eva Duarte 1 สมัย
Copa de la Liga 1 สมัย
European Cup/UEFA Champions League 9 สมัย
Intercontinental Cups 3 สมัย
UEFA Cup 2 สมัย
UEFA Super Cup 1 สมัย

ยุคเริ่มต้น (1897-1945)
ต้นกำเนิดของ รีลมาดริด ต้องย้อนกลับไปที่จุดที่กีฬาฟุตบอล ได้ถูกนำเข้ามาในกรุงมาดริด ผ่านทางนักศึกษาของ Institución libre de enseñanza ซึ่งรวมถึง ผู้ที่จบการศึกษาจาก Cambridge และ Oxford พวกเขาก่อตั้ง Football Club Sky ในปี 1897 โดยเล่นกันในตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ Moncloa จากนั้นแยกออกเป็นสองสโมสรในปี 1900 คือ New Foot-Ball de Madrid และ Club Español de Madrid หลังจากนั้น ในปี1902 ได้มีการก่อตั้ง Madrid Football Club อย่างเป็นทางการ โดย Juan Padrós ต่อมาในปี 1905 Madrid FC ก็ได้รับแชมป์แรก โดยเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ในนัดชิง Spanish Cup สโมสรฟุตบอลมาดริดได้เข้าร่วมกับ Royal Spanish Football Federation ในวันที่ 4 มกราคม 1909 เมื่อประธานสโมสร Adolfo Meléndez ลงนามในสัญญากับ สมาคมฟุตบอลสเปน และย้ายสนามไปที่ Campo de O'Donnell ในปี 1920 สโมสร ได้รับพระราชทานชื่อ Real จาก King Alfonso XIII และได้กลายเป็นทีมชื่อ Real Madrid
ในปี 1929 ได้มีการก่อตั้งลีคฟุตบอลสเปนขึ้น รีลมาดริดได้เป็นที่หนึ่งของการแข่งโดยตลอด จนกระทั่งในนัดสุดท้ายพวกเขาได้พ่ายแพ้ให้กับ แอธเลติก บิลเบา ทำให้เป็นได้แค่รองแชมป์ รองจากบาร์เซโลนา รีลมาดริดได้แชมป์ลีคครั้งแรกในฤดูกาล 1931-32 และได้แชมป์อีกครั้งในปีถัดมา กลายเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์ติดต่อกันสองปี
ในวันที่ 14 เมษายน 1931 การมาถึงของ Second Spanish Republic ทำให้สโมสร รีลมาดริด สูญเสียคำว่า Real และ กลับไปใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลมาดริด(Madrid Football Club) เหมือนเดิม  ฟุตบอลยังเล่นต่อไปแม้ว่าจะมีสงครามโลก ในวันที่ 13 มิถุนายน 1943 มาดริด เอาชนะ บาเซโลนา 11-1 ในการเล่นนัดที่สองของ Copa del Generalísimo รอบรองชนะเลิศ เนื่องจาก Copa del Rey ถูกเปลี่ยนชื่อในปีนั้นเพื่อเป็นเกรียติแก่ General Franco โดยเกมดังกล่าวถือเป็นชัยชนะอันถล่มทลายต่อคู่ปรับของพวกเขา แต่ว่ามีหลักฐานว่านักเตะของบาร์เซโลนาถูกข่มขู่โดยตำรวจ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจของรัฐ ผู้ที่”มีนัยว่าบอกทีมให้บางคนในนั้น เล่นด้วยความเอื้ออาทรที่ระบอบการปกครองอนุญาติให้เล่น ถ้ายังอยากอยู่ในประเทศต่อไป” ประธานสโมสรบาร์เซโลนาถูกทำร้ายจากแฟนบอลมาดริดอีกด้วย

Santiago Bernabéu Yeste and European success (1945–1978)
Santiago Bernabéu Yeste ได้กลายมาเป็นประธานสโมสรเมื่อปี 1945 ภายใต้การบริหารของเขา เขาได้สร้างสนามกีฬา Santiago Bernabéu ขึ้น และสร้างศูนย์ฝึกซ้อม Ciudad Deportiva หลังเสียหายจากสงครามภายในประเทศสเปน  เขาใช้เงินไปกับการซื้อผู้เล่นระดับโลก รวมถึงผู้เล่นคนสำคัญอย่าง Alfredo Di Stéfano
ในปี 1955 ได้มีการเสนอจากนักข่าวกีฬาของ L'Équipe Gabriel Hanot, Bernabéu, Bedrignan และ Gusztáv Sebes ว่าควรจะมีการจัดการแข่งขันทัวนาเมนต์ที่เชิญทีมฟุตบอลจากทั่วยุโรปให้มาแข่งขัน โดยมีชื่อว่า European Cup และ เปลี่ยนชื่อมาเป็น UEFA Champions League ในภายหลัง ด้วยการนำของ Bernabéu รีลมาดริด สถาปนาตนเองเป็นทีมชั้นนำของ สเปนและยุโรป โดยพวกเขาชนะการแข่งขัน European Cup ห้าสมัยแรก ในปี 1956-1960 ทำให้ได้รับถ้วยรางวัลไปไว้ที่สโมสร รวมถึงได้ติดตราเกรียติยศUEFA เมื่อทำการแข่งด้วย ในปี 1966 สโมสรก็ได้แชมป์เป็นสมัยที่หก โดยในนัดชิงพวกเขาใช้ผู้เล่นที่มีสัญชาติเดียวกันลงเล่นทั้งหมด(สเปน) โดยเอาชนะ พาทิซาน เบลเกรด จาก ยูโกสลาเวีย ไป 2-1 รีลมาดริดได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ Yé-yé โดยชื่อมาจาก “Yeah-Yeah-Yeah” คอรัสของวง The Beatles ในเพลง “She Loves You” หลังจากผู้เล่นสี่คนในทีม แต่งตัวและใส่วิกเหมือน เต่าทอง โดยการเผยแพร่ของ Diario Marca หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของสเปน ทีมรีลมาดริดรุ่น Yé-yé ยังเป็นรองแชมป์ในปี 1962 และ 1964
ในยุค 1970s รีลมาดริดได้แชมป์ลีค ห้าสมัย และ Spanish Cups สามสมัย สโมสรได้ลงเล่นในรายการ UEFA Cup Winners’ Cup รอบสุดท้าย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่สโมสรจากอังกฤษทีมเชลซี ด้วยสกอร์ 1-2 จากนั้น ในวันที่ 2 กรกฎาคม 1978 ประธานสโมสร Santiago Bernabéu ได้เสียชีวิต ในระหว่างนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่อาร์เจนตินา ทางสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(FIFA)ได้ประกาศไว้อาลัยเป็นเวลาสามวัน ในปีถัดมาทางสโมสรได้จัดการแข่ง Trofeo Santiago Bernabéu เพื่อเป็นการรำรึกถึงอดีตประธานสโมสร โดยเป็นทัวร์นาเมนต์กระชับมิตร จัดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

Quinta del Buitre และ แชมป์ยุโรปสมัยที่ 7 (1980-2000)
ในช่วงต้นของทศวรรษที่1980s รีลมาดริดไม่ได้รับถ้วยรางวัลของ La Liga ติดต่อกัน จนนักเตะท้องถิ่นรุ่นใหม่จะนำแชมป์กลับมาที่สโมสรอีกครั้งในฤดูกาล 1985-86 นักข่าวกีฬาชาวสเปนได้ขนานนามพวกเขาว่า La Quinta del Buitre (“หมู่อีแร้ง”)  ด้วยการนำชื่อเล่นของผู้เล่นคนหนึ่งคือ Emilio Butragueño ซึ่งมีฉายาว่า El Buitre และ ผู้เล่นอีกสี่คนคือ Manuel Sanchís, Martín Vázquez, Míchel และ Miguel Pardeza (เหลือสี่คนเมื่อ Pardeza ย้ายไปที่ ซาราโกซา ในปี 1986) และผู้เล่นคนอื่นๆอย่าง ผู้รักษาประตู Francisco Buyo แบ็คขวา Miguel Porlán Chendoและกองหน้าชาวเม็กซิโก Hugo Sánchez รีลมาดริดได้กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีทีมที่ดีที่สุดในสเปนและยุโรป ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 1980s รีลมาดริดได้แชมป์ UEFA Cup 2 สมัย La Liga 5 สมัยติดต่อกัน Spanish Cup 1 สมัย และ Spanish Super Cups 3 สมัย
La Quinta del Buitre ได้แตกออกเมื่อ Martín Vázquez, Emilio Butragueño และ Míchel ออกจากสโมสร
ในปี 1996 ประธานสโมสร Lorenzo Sanz ได้แต่งตั้ง Fabio Capello ให้มาทำหน้าที่โค้ช แต่ในฤดูกาลแรก และฤดูกาลเดียวของการเป็นโค้ชในรอบนี้ เขาก็พาทีมได้แชมป์ลีค และได้มีผู้เล่นอย่าง Roberto Carlos, Predrag Mijatović, Davor Šuker และ Clarence Seedorf เข้ามาสูสโมสร และเพิ่มความแข็งแกร่งให้รีล ฃมาดริด รวมถึงการที่มี Raúl, Fernando Hierro, Iván Zamorano และ Fernando Redondo ( ได้ Fernando Morientes มาในปี 1997) ในที่สุด การรอคอยกว่า 32 ปี ก็สิ้นสุดลงเมื่อ รีลมาดริด ได้แชมป์ European Cup ในปี 1998 ภายใต้การทำทีมของ Jupp Heynckers โดยเอาชนะ ยูเวนตุส ไปด้วยสกอร์ 1-0 จาก Predrag Mijatović
Los Galácticos(2000-2006)
ในเดือนกรกฎาคม ปี 2000 Florentino Pérez ได้กลายมาเป็น ประธานสโมสร เขาสาบานว่าจะล้างหนี้ของสโมสรเป็นจำนวน 270 ล้านยูโร และ จะปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทันสมัย คำสัญญาของ Pérez ทำให้เขาได้เซ็นสัญญา Luís Figo ในปีต่อมารีลมาดริด ได้ใช้เงินไปกับ Galáctico โดยมีผู้เล่นอย่าง Zinédine Zidane, Ronaldo, Luís Figo, Roberto Carlos, Raúl, Fabio Cannavaro และ David Beckham เหมือนกับว่าการลงทุนนี้เหมือนกับการเล่นพนัน โดยรีลมาดริดได้แชมป์ UEFA Champions League และ Intercontinental Cup ในปี 2002 และแชมป์ลีคในปี 2003 และรีลมาดริดพลาดการคว้าแชมป์ระดับสูงในอีกสามฤดูกาลถัดมา ฤดูร้อนของปี 2003 หลังจากการได้แชมป์ลีค Florentino Pérez  และบอร์ดบริหาร ปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับ Vicente del Bosque หลังจากปัญหาภายในทำให้กัปตันทีม Fernando Hierro ย้ายออกจากสโมสร พวกเขายังปฏิเสธการเพิ่มค่าเหนื่อของ Claude Makélélé เมื่อถึงเวลาที่จะต้องต่อสัญญา  ในที่สุด Makélélé ก็ได้ร้องขอว่าต้องการย้ายทีม และย้ายไปที่เชลซี
ไม่กี่วันหลังจากได้แชมป์ลีคสูงสุด ได้มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เริ่มจากการที่ Pérez ปลด Vicente del Bosque หลังจากการที่ผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสรบอกว่า del Bosque ไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกต้องสำหรับตำแหน่งนี้ พวกเขาต้องการใครสักคนที่อายุยังน้อยและสามารถทำให้ทีมตื่นเต้นได้ บรรยากาศแย่ๆปกคลุมรีลมาดริด และยังคงดำเนินต่อไป เมื่อตำนานและกัปตันทีมอย่าง Fernando Hierro ได้ออกจากสโมสร เช่นเดียวกับ Steve McManaman อย่างไรก็ตาม ช่วงอุ่นเครื่องที่เอเชีย ก็ได้นักเตะใหม่ชื่อดังอย่าง David Beckham แต่ Pérez ก็ปฎิเสธสัญญาใหม่ของ Claude Makélélé ที่ร้องขอค่าเหนื่อยที่มากขึ้น และ Claude Makélélé ก็ย้ายทีมไปเชลซี ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ Fernando Morientes ได้ย้ายไปโมนาโคแบบยืมตัว รีลมาดริดได้แต่งตั้ง Carlos Queiroz และเริ่มต้นด้วยการเอาชนะ Real Betis อย่างลำบาก
ในฤดูกาล 2005-06 ได้มีการเสริมทัพนักเตะ Julio Baptista (20ล้านปอนด์), Robinho (30ล้านปอนด์) and Sergio Ramos (30ล้านปอนด์ ค่าฉีกสัญญา) แต่ว่าโค้ชชาวบราซิลกลับไม่สามารถทำผลงานได้ดีนัก รวมถึงการพ่ายแพ้ต่อคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลนาถึง 0-3 ใน Santiago Bernabéu ทำให้ Vanderlei Luxembergo ออกจากการเป็นโค้ช โดยมี Juan Ramón López Caro ผู้ที่เป็นอดีตโค้ชของ Real Madrid Castilla ทำหน้าที่แทน แต่กลับไปแพ้ รีล ซาราโกซา 6-1 ใน Copa del Rey รอบก่อนรองชนะเลิศ และตกรอบUEFA Champions League สี่ปีต่อเนื่อง ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2006 Florentino Pérez ก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง

ประธานคนใหม่ Ramón Calderón(2006-2009)
Ramón Calderón ได้ชนะการเลือกตั้ง และดำรงตำแหน่งประธานสโมสรรีลมาดริด ในวันที่ 2 กรกฎาคม  2006 และได้แต่งตั้งให้ Fabio Capello ดำรงตำแหน่งโค้ชอีกครั้ง รวมทั้ง Predrag Mijatović มาเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ รีลมาดริดได้แชมป์ลีคเมื่อปี 2007 แต่ Fabio Capello ถูกไล่ออก
ในวันที่ 9 มิถุนายน 2007 รีลมาดริดต้องลงแข่งพบกับ รีลซาราโกซา ที่ La Romareda สัญญาณอันตรายดังขึ้น เมื่อแบ๊คขวาดาวรุ่งของรีลมาดริด Miguel Torres เกิดอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกระหว่างอบอุ่นร่างกาย รีลซาราโกซาขึ้นนำรีลมาดริด 2-1 และใกล้จะจบเกม ในขณะที่อีกสนามหนึ่ง  บาร์เซโลนา ก็นำเอสปันญ่อลอยู่ที่ 2-1 รีลมาดริดต้องการที่จะอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ต่อไป และเป็น Ruud van Nistelrooy ทำประตูตีเสมอให้รีลมาดริดได้ รวมถึง Raúl Tamudo ของ เอสปันญ่อลก็ตีเสมอบาร์เซโลนาได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ เซบีย่า ที่เสมอกับมายอก้า 0-0 หมายถึงหากได้ชัยชนะนัดต่อไปที่จะเปิดบ้านพบกับมายอก้า ก็จะการันตีถึงแชมป์ครั้งที่สามสิบของรีลมาดริด
วันที่ 17 มิถุนายน รีลมาดริดพบกับ รีลมายอก้า ที่ Bernabéu ในขณะที่ บาร์เซโลนา และ เซบีย่า พบกับ Gimnàstic de Tarragona ที่ตกชั้นไปแล้ว และ บียารีล ตามลำดับ ในขณะที่จบครึ่งแรก รีลมาดริดเป็นฝ่ายตามหลังที่0-1 ขณะที่ บาร์เซโลนาขึ้นนำ 3-0  แต่ว่าอย่างไรก็ดี สามประตูในครึ่งชั่วโมงทำให้รีลมาดริดเป็นฝ่ายชนะ จากประตูของ Reyes และ สองประตูจาก Higuaín ทำให้รีลมาดริดได้แชมป์สมัยที่สามสิบโดยสมบูรณ์ โดยที่มีแต้มเท่ากับบาร์เซโลนาแต่ว่า เฮคทูเฮดดีกว่า (RMA 2-0 BAR, BAR 3-3 RMA) โดยมีแฟนบอลรีลมาดริดจำนวนหลายพันคนมาร่วมฉลองแชมป์ครั้งนี้ที่ Plaza de Cibeles

การกลับมาของ Florentino Pérez และยุคของ José Mourinho (2009-ปัจจุบัน)
ในวันที่ 1 มิถุนายน 2009 Florentino Pérez ได้กลับมาเป็นประธานสโมสรรีลมาดริดอีกครั้ง Pérez สานต่อนโยบาย Galácticos อีกครั้ง โดยซื้อ Kaká จาก มิลาน ด้วยค่าตัวเป็นประวัติการณ์ที่ 60 ล้านปอนด์ทำลายเจ้าของสถิติคนเก่า Zinedine Zidane 50ล้านปอนด์ และในอีกไม่กี่วันถัดมาก็มีการทำลายสถิติอีกครั้ง ครั้งนี้คือ Cristiano Ronaldo ที่ 80ล้านปอนด์
José Mourinho ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในเดือน พฤษภาคม 2010 จนกระทั่งเดือน เมษายน 2011 เรื่องน่าแปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็เกิดขึ้น มี El Clásico ขึ้นถึงสี่ครั้งในสิบแปดวัน ครั้งแรกวันที่ 16 เมษายน เป็นการพบกันในลีค ที่ Santiago Bernabéu โดยเสมอกันไป 1-1 นัดต่อมาที่ Estadio Mestalla ซึ่งเป็นการแข่งขัน Copa del Rey รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 20 เมษายน โดย รีลมาดริดเป็นฝ่ายชนะไป 1-0 ในช่วงต่อเวลา ในนัดต่อมาเมื่อ 27 เมษายน ในรายการ UEFA Champions League รอบรองชนะเลิศนัดแรก ที่ Santiago Bernabéu รีลมาดริดแพ้ 0-2 ในนัดถัดมาเมื่อวันที่2 พฤษภาคม ในรายการ UEFA Champions League รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ที่ Camp Nou เสมอกันที่ 1-1 และเป็นบาร์เซโลนาเข้ารอบด้วยผลรวม 3-1
ใน El Clásico นัดแรก ต่างฝ่ายต่างทำประตูด้วยการยิงจุดโทษ นัดที่สอง หลังจากเสมอกันอยู่ที่ 0-0 Ronaldo ก็มาทำประตูได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นัดต่อมา Pepe ถูกไล่ออกเนื่องจากการ”เข้าสกัดรุนแรง” ต่อแบ๊คขวาของบาร์เซโลนา Daniel Alvesเห็นว่า”ไม่สามารถกลับมาเล่นต่อได้”และถูกแบกขึ้นเปลไป แต่ว่าหลังจากที่ Pepe ถูกไล่ออกแล้ว Daniel Alves กลับมาวิ่งได้เหมือนเดิม เป็นที่น่าสงสัยมากเนื่องจาก Pepe ได้ถูกวางเป็นผู้เล่นที่คอยประกบ Leonel Messi หลังจากเขาถูกไล่ออก Messi ก็ทำประตูได้สองประตู โดยที่เกมดังกล่าว José Mourinho ก็ถูกไล่ออกจากการคุมข้างสนามและได้รับการแบนเป็นจำนวนห้านัด รวมถึงกล้องสามารถจับภาพกองกลางของบาร์เซโลนา Sergio Busquets ที่เหยียดเชื้อชาติ Marcelo แบ็คซ้ายของรีลมาดริด ในนัดถัดมา ก็มีประตูที่ไม่ได้ของ Gonzalo Higuaín เนื่องจากการถือว่า Cristiano Ronaldo ทำฟาวล์ใส่ Javier Mascherano แต่ตามจริงแล้วคนที่ทำคือ Gerard Piqué ผู้เล่นบาร์เซโลนาเช่นเดียวกัน
ในฤดูกาลถัดมา 2011-12 รีลมาดริดได้คว้าแชมป์ La Liga อีกครั้งเป็นสมัยที่ 32 รวมถึงสถิติ ชนะโดยมีแต้มเกิน 100 แต้ม ทำประตูรวมทั้งทีมที่ 121 ประตู และประตูได้เสีย +89 รวมถึง Cristiano Ronaldo ทำประตูในลีคครบ 100 ประตูเร็วที่สุดที่ 92 เกม โดยเอาชนะตำนานของรีลมาดริด Ferenc Puskás ที่ทำใน 105 นัด และยังเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดในหนึ่งปีของสโมสรที่ 60 ประตู รวมถึงเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ La Liga ที่ทำประตูใส่ทีมอื่นร่วมลีค19ทีมในฤดูกาลเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Free Backlinks makethaifood99 Backlinks thailand-poker Backlinks